Telegram มีความปลอดภัยจริงหรอ เราจะไว้ใจได้อย่างไร

หลังจากที่เรารู้กันแล้วว่า Telegram คืออะไร จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้คนหันมาใช้แอพฯ Telegram เพิ่มขึ้นมาก ภายในระยะเวลาอันสั้น จนอาจทำให้ใครหลายๆคนอดสงสัยไม่ได้ว่า Telegram นั้นปลอดภัยจริงหรือไม่ แล้วเราจะไว้วางใจเจ้าแอพพลิเคชัน สัญชาติรัสเซียอย่าง Telegram ได้อย่างไร วันนี้บลูมีคำตอบมาฝากจ้า

ความเป็นส่วนตัว

กรณีเป็นห้องแชท

ไว้วางใจเรื่องความเป็นส่วนตัวของแอพพลิเคชั่น Telegram ได้เลย เพราะเขามีมีระบบ End-To-End Encryption หรือว่าการเข้ารหัสทั้งสองฝั่ง เสมือนผู้ใช้ถือกุญแจคนละดอก ใครที่ไม่มีกุญแจจะไม่สามารถเปิดเข้ามาในแชทได้ ดังนั้นไม่ว่าใครก็ตาม ก็ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูล, การสนทนาได้ รวมไปถึงเจ้าของแอปพลิเคชันเอง ก็ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข้างในได้

กรณีเป็นห้อง Group chat

ในกรณีที่เป็นกลุ่มแชทนั้น ทาง Telegram จะไม่ได้ใช้ระบบ End-To-End Encryption ในการรักษาความปลอดภัย เพราะตามหลักความเป็นจริงแล้ว การใช้วิธีนี้ถึงแม้จะปลอดภัยจริงแต่สามารถทำได้ยากเมื่อต้องถูกใช้งานกับกลุ่มแชทที่มีขนาดใหญ่ ทำให้ยากต่อทางเทคนิค ลองคิดภาพตาม ถ้าห้องนอนของเรามีคนถือกุญแจอยู่ 200 คน เรื่องที่คุยกันในห้องก็คงจะไม่ปลอดภัยตามจำนวนคนที่มากขึ้น ดังนั้น Telegram จึงยอมไม่ใช้ระบบ End-To-End Encryption ในกรณีห้องแชท แต่จะยังมี Secret Chats ซึ่งยังใช้ End-To-End Encryption อยู่แต่ว่าสามารถคุยกันได้แค่ 1 ต่อ 1 เท่านั้น
ถึงแม้กลุ่มแชทจะไม่ได้ใช้ระบบ End-To-End Encryption แต่ก็ยังมีการเข้ารหัสอยู่ นั่นก็คือ ผู้ใช้ และ Telegram ดังนั้นทางเจ้าของแอปพลิเคชัน จะสามารถเข้าถึงข้อมูลนั้นได้ กรณีหากศาลแต่ละประเทศต้องการข้อมูลจาก Telegram ตามกฎหมายแล้ว ทางเจ้าของแอพพลิเคชันก็จะต้องให้ข้อมูลกับศาลแต่ละประเทศไป
แต่ทาง Telegram ก็มีมาตรการป้องกันข้อมูลของผู้ใช้งาน โดยการเพิ่ม Server ของ Telegram เอง จากที่มีแค่ตัวเดียว ก็เพิ่มให้มีหลายตัว เพื่อที่จะสามารถกระจายการเก็บข้อมูลไปได้หลาย Server และกระจายการเก็บข้อมูลไปยัง Server ต่างๆเหล่านี้ ทำให้ข้อมูลที่หลุดออกไป จะเป็นเพียงข้อมูลบางส่วนเท่านั้น หากศาลประเทศใดประเทศหนึ่งต้องการข้อมูลทั้งหมด ศาลประเทศนั้นก็จำเป็นที่จะต้องขอหมายศาลจากอีกหลายๆประเทศ ซึ่งในความเป็นจริงนั้นมีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อยถึงเป็นไปไม่ได้เลย นั่นจรึงเป็นเหตุที่ยากถ้ารัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่งจะมาขอข้อมูลทั้งหมดจาก Telegram

Telegram เคยถูกขอร้องจากหลายๆประเทศ เพื่อให้ความร่วมมือกับประเทศนั้นๆ แต่ทาง Telegram ไม่เคยให้ความร่วมมือ ยกเว้นกรณีที่ผู้ใช้งานทำผิด Platform ของ Telegram เอง เช่น รวมกลุ่มกันเพื่อส่งเสริมความรุนแรง ฯลฯ ทาง Telegram จำเป็นจะต้องลบข้อมูลและทำการแบนทันที เพราะฉะนั้นการที่ Telegram ไม่ให้ความร่วมมือกับประเทศใดเลย ทำให้ Telegram ถูกแบนจากประเทศนั้นๆแทน

แต่การแบน Telegram ก็เป็นเรื่องยากอีกเหมือนกัน เพราะวิธีการบล็อกอะไรบางอย่างบนอินเตอร์เน็ต ถ้าจะเอาวิธีที่ง่ายที่สุด จะเป็นการบล็อกที่ server ซึ่งวิธีการแก้ก็ง่ายมาก เพียงเปลี่ยน IP server ที่จะใช้เข้าไป ก็สามารถเข้าถึงได้แล้ว แต่หากเพิ่มประเทศที่แบนเพิ่มความรุนแรงการบล็อกขึ้นไป ก็จะเป็นการบล็อกที่ IP Address โดยตรง เพราะถ้า IP Address โดนบล็อคก็จะไม่สามารถเปิดเข้าจาก IP Server ได้เลย แต่ยังสามารถเข้าถึง Telegram ได้โดยใช้ VPN ทะลุบล็อกเหล่านี้อยู่ดี

ซึ่งบริการ VPN ในประเทศก็มีอยู่หลายเจ้าด้วยกัน ทั้งที่สามารถใช้งานและเข้าถึงได้ง่าย และราคาที่เหมาะสม ในตอนนี้ VPN อาจไม่มีความสำคัญเท่าไรนัก แต่ในอนาคต VPN จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ซึ่งผู้ให้บริการที่เราแนะนำก็คือ BullVPN เป็นแอพพลิเคชั่นที่ให้บริการด้านเครือข่ายและระบบความปลอดภัยอินเทอร์เน็ต ซัพพอร์ตภาษาไทยและใช้งานง่าย สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ Windows, Mac, Android, IOS และสามารถเพิ่มส่วนขยายไปที่ Chrome ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถดาวน์โหลดได้ “ที่นี่”

ถึง Telegram จะเป็น Platform ที่มีความปลอดภัยพอสมควร แต่ผู้ใช้งานก็ต้องป้องกันตัวเองเบื้องต้นอยู่ดี เพราะการที่เราเข้าไปอยู่ในกลุ่มแชทที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก อาจจะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่คนในกลุ่มนำข้อมูลภายในแชทออกมาเผยแพร่ เพราะฉะนั้นผู้ใช้งานจะต้องระวัง ด้วยการไม่แชร์ข้อมูลส่วนตัวของตัวเอง รวมไปถึงการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใน Account โดยการปิดเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เพื่อคนอื่นจะไม่สามารถเห็นเบอร์โทรศํพท์ของเราได้ และไม่ว่าจะแอพพลิเคชันไหน เราก็ไม่ควรนำข้อมูลส่วนตัวออกไปเผยแพร่โดยเด็ดขาด