การใช้งาน VPN ในจีน
ในช่วงปีที่ผ่านมา การใช้งาน VPN ในจีนเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า แม้ว่าประเทศจีนจะมีกฎระเบียบเข้มงวดเกี่ยวกับการควบคุมอินเทอร์เน็ต ข้อมูลจาก Techopedia สื่อด้านเทคโนโลยี เผยให้เห็นถึงแนวโน้มนี้ ซึ่งสำนักข่าวต่างชาติก็ได้อ้างอิงข้อมูลนี้ด้วย เช่น VOA ของอเมริกา
จีนมีการบล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์และบริการออนไลน์หลายประเภทที่เราใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น Google, Facebook, YouTube และ Instagram ซึ่งทำให้การเข้าถึงข้อมูลและการสื่อสารกับคนภายนอกจีนกลายเป็นเรื่องยาก สำหรับชาวต่างชาติที่ไปเรียนหรือทำงานในจีน การใช้แพลตฟอร์มสากลเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการทำงาน การศึกษา หรือการติดต่อสื่อสารกับครอบครัวและเพื่อนฝูงในต่างประเทศ
หนึ่งในปัญหาหลักของการใช้ชีวิตในจีนคือการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตนอกจีน ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์และบริการต่างประเทศได้ VPN จึงกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตนอกประเทศจีนได้อย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัว การใช้ VPN ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหลีกเลี่ยงการบล็อกเว็บไซต์และการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการที่ถูกจำกัดได้
แม้ว่าจีนจะมีแพลตฟอร์มออนไลน์ของตนเองที่ครอบคลุม เช่น Douyin (TikTok จีน), Xiaohongshu (เทียบได้กับ Instagram) WeChat (เทียบได้กับ LINE), Weibo (เทียบได้กับ Facebook+Twitter) และ Baidu (เทียบได้กับ Google) แต่แพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่สามารถแทนที่แพลตฟอร์มสากลที่หลายคนคุ้นเคยได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องทำงานกับบริษัทต่างประเทศหรือมีการติดต่อสื่อสารกับผู้คนในต่างประเทศ การใช้งาน VPN ช่วยให้การทำงานและการเรียนเป็นไปอย่างราบรื่น เช่น การใช้ Google Drive เพื่อทำงานร่วมกันหรือการใช้งาน Zoom ในการประชุมออนไลน์กับผู้ร่วมงานต่างประเทศ
การรับนักศึกษาต่างชาติเข้ามาเรียนในจีนยังคงมีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนักศึกษาไทยที่เดินทางไปเรียนต่อ การใช้ VPN ช่วยให้นักศึกษาสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลการศึกษาและการวิจัยที่ไม่ได้ถูกเซ็นเซอร์ รวมถึงการใช้แพลตฟอร์มสื่อสารที่คุ้นเคยเช่น Line, Facebook ,Instagram, TikTok (รู้หรือไม่? TikTok เวอร์ชั่นที่พวกเราคนไทยใช้ เป็นเวอร์ชั่นสากล จะแยกคนละแพลตฟอร์มกับ Douyin หรือ TikTok จีน) ซึ่งไม่สามารถใช้งานได้ในจีนโดยตรง
การลงทุนบริการ VPN ในประเทศจีน
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ข่าวต่างประเทศระบุว่า จีนได้พยายามพัฒนาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงการใช้บริการออนไลน์ในจีน มีข่าวล่าสุดเผยว่า จีนจะเพิ่มจำนวนบริการ VPN ในประเทศ และอนุญาตให้ต่างชาติลงทุนใน VPN ได้มากขึ้น โดยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนจากต่างชาติสูงสุดถึง 50% ของการลงทุนในแต่ละบริการ VPN การนำร่องนี้จะเริ่มในบางพื้นที่เช่น ปักกิ่ง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจีน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจีนจะเปิดให้มีการลงทุนในบริการ VPN มากขึ้น แต่ก็ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของทางการจีน ผู้ให้บริการทุกรายจำเป็นต้องได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในสองหน่วยงานกำกับดูแลอุตสาหกรรมเทคโนโลยีรายใหญ่ของประเทศ นี่เป็นการรักษาความมั่นคงของข้อมูลและการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลในประเทศจีน
การใช้งาน VPN ในจีนจึงยังคงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชาวต่างชาติและผู้ที่ต้องการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตโลก การเลือก VPN ที่เหมาะสมจะช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการที่จำเป็นได้อย่างไม่มีปัญหา และทำให้การใช้ชีวิตในจีนเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน หรือการติดต่อสื่อสารกับคนในครอบครัวและเพื่อนฝูงที่ไทย
การใช้งาน VPN ไม่เพียงแต่ช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกบล็อก แต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานอินเทอร์เน็ตอีกด้วย โดยการเข้ารหัสข้อมูล ทำให้การใช้งานออนไลน์ปลอดภัยมากขึ้น
สุดท้ายนี้ เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจถึงความสำคัญของการใช้งาน VPN สำหรับผู้ที่ไปเรียนและทำงานในจีน และทำให้การใช้ชีวิตในจีนเป็นไปอย่างราบรื่น ^^