pattern

30 Username Password อันตราย และเทคนิคตั้งรหัสให้ปลอดภัย

     20,928

pattern

30-dangerous-username-password

   เข้าใจว่ายิ่งมาก Account รหัสผ่านที่ต้องจำก็ยิ่งมากขึ้น หลาย ๆ คนเลยตั้งรหัสผ่านเพื่อให้ง่ายแก่การจดจำ จนลืมนึกถึงเรื่องของความปลอดภัย และนี่ก็เป็น Username และ Password ที่บรรดาเหล่า Hacker จะใช้แฮ็กบัญชีแอคเคาน์ของเรา ซึ่งเราไม่ควรนำมาใช้ มีอะไรบ้าง 20 อันดับ Username และ Password ที่ไม่ควรใช้ พร้อมการใช้งาน VPN เพื่อเพิ่มความปลอดภัย เพื่อเข้ารหัสข้อมูลขณะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

30 อันดับ Username และ Password ที่ไม่ควรใช้

ลำดับที่  USERNAME ที่ไม่ควรใช้    Password อันตราย 
1 root root
2 admin support
3 user 111111
4 test admin
5 ubnt 12345
6 DUP ROOT Password
7 pi 123456
8 guest 1234
9 123321 123
10 support 1
11 1234 ubnt
12 oracle raspberry
13 mysql user
14 nagios pass
15 ftp any
16 postgres welc0me
17 12345 default
18 tomcat synopass
19 ubuntu test
20 111111 alpine
21 aaaaaa 1212312121
22 test 987654321
23 qwerty qwerty123
24 DEFAULT password / p@ssword 
25 1q2w3e 000000
26 Iloveyou Iloveyoutoo
27 welcome welcome123
28 admin123 admin1234
29 654321 654321
30 secret mysecret

ข้อมูลจาก it24hrs , Springnews

วิธีการตั้งรหัสผ่าน ( Password ) ให้ปลอดภัยห่างไกลแฮกเกอร์

1. ควรมีความยาวที่เหมาะสม ประมาณ 10 - 14 Characters

     ความยาวของรหัสผ่านเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม แต่ก็ไม่ควรยาวเกินจนจำไม่ได้ Password ที่มีความยาว 10 ตัวอักษรนั้นเดายากกว่า Password 8 ตัวอักษรถึง 4 พันเท่า! ถ้าเดา Password 8 ตัวอักษรใช้เวลา 1 วัน เดา Password 10 ตัวอักษรก็ต้องใช้เวลา 4000 วัน! Website ในทุกวันนี้มักจะต้องการ Password ความยาว 8 ตัวอักษรเป็นขั้นต่ำอยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการความปลอดภัยจริง ๆ แนะนำ10 ตัวอักษรขึ้นไปจะดีกว่า

2. อย่าใช้คำทั่วไปมาตั้ง Password

     หากเราเป็นคนชอบดอกไม้ คนก็อาจจะเดา Password ของเราว่า Flower แล้วถ้าเราอยากใช้คำว่า flower ล่ะจะทำยังไง? เราก็อาจจะเรียงคำกลับหลังเป็น rewolf ก็ได้ ตัดสระทิ้งเป็น flwr ก็ได้ หรือเอาสระนำหน้าเอาอักษรตามหลังเป็น oeflwr ก็ได้เช่นกัน จำไว้ว่า คำที่ไม่มีในพจนานุกรม เดายากกว่าคำที่มีในพจนานุกรมเสมอ ส่วน Password ที่เป้นตัวเลขล้วน ๆ เช่น 12345678 

ถือเป็นรหัสต้องห้ามเพราะเดาง่ายสุด ๆ รวมไปถึงชื่อจริง ชื่อเล่น ก็ไม่ควรเอามาตั้งรหัสผ่านเพราะง่ายแก่การเดา

3. ผสมผสานทั้งตัวเลข เครื่องหมาย ตัวอักษรใหญ่ และตัวอักษรเล็ก

     เมื่อเราใช้ตัวอักษรใหญ่ เล็ก ตัวเลขและเครื่องหมายต่าง ๆ ลงใน Password โอกาสที่จะเดา Password ถูกจะมีแค่ 1 ในหลายแสนล้าน 1A2b3C4d จะเดาสุ่มหรือใช้โปรแแกรมช่วยเดาได้ยากกว่า 1a2b3c4d หลายพันเท่า ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ควรผสาน Password ด้วยตัวอักษรหลากหลายแบบเอาไว้เสมอ

4. พิมพ์ Password ภาษาอังกฤษด้วยคีย์บอร์ดภาษาไทย

     อ่านแล้วอาจจะงงๆ ขอยกตัวอย่างให้ดูดีกว่า อย่าง [^];urugvHo มาจากคำว่า “บูลวีพีเอ็น” กล่าวคือ เราพิมพ์คำว่า บูลวีพีเอ็น ทั้งที่ภาษายังเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้ได้ Password [^];urugvHo มา(ไม่เชื่อลองพิมพ์ดูได้) วิธีนี้นอกจากจะจำได้ง่ายแล้ว Password ยังมีความปลอดภัยสูงมาก ที่สำคัญคืออย่าให้คนอื่นรู้ Keyword ของเราเท่านั้นเอง ซึ่งวิธีนี้ก็จะง่ายกับคนที่ใช้งานบน PC มากกว่าคนที่ใช้งานบนมือถือ ถ้าใช้วิธีการนี้ก็ต้องมีจำรหัสเพิ่มกันบ้างแหล่ะ

5. ไม่ควรใช้รหัสผ่านเดียวกัน กับทุกบัญชีออนไลน์

     ก็ความจำเรามันไม่ดี เลยไม่อยากตั้งรหัสผ่านหลาย ๆ ชื่อให้งง แต่เราก็ไม่ควรใช้รหัสเดียวกันทุก Account เพราะถ้ารหัสหลุดออกไป โดนแฮกทีเดียว...หายหมดแย่เลย พี่วัวแนะนำให้ตั้งชื่อเฉพาะกับแอคเคาน์นั้นด้วย เช่น Bullface2023*-* แบบนี้เป็นต้น

Cr. Mthai , TTBBank

how-to-create-safe-username-password

VPN ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างไร?

1. เข้ารหัสข้อมูล 

การเข้ารหัสข้อมูลด้วย VPN ช่วยป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์ดักจับรหัสผ่านของคุณ แม้ว่าเครือข่ายที่คุณใช้อยู่จะไม่ปลอดภัย

2. ซ่อน IP Address 

VPN ซ่อน IP Address ทำให้การออนไลน์ของคุณเป็นส่วนตัวมากขึ้น ป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ติดตามพฤติกรรมของคุณ

3. ป้องกันการโจมตีจาก Wi-Fi สาธารณะ 

การเชื่อม Wi-Fi สาธารณะอาจจะใช้งานได้ฟรีแต่มักเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์ในการแฮกข้อมูลของคุณ การใช้ VPN จะช่วยให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยขึ้น

4. เข้าถึงเว็บไซต์จากต่างประเทศ 

ดูหนัง ฟังเพลง และใช้บริการออนไลน์ข้ามข้อจำกัดของแต่ละประเทศได้อย่างปลอดภัย

5. ป้องกันการติดตามจาก ISP 

บางผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอาจบันทึกกิจกรรมออนไลน์ของคุณ การใช้ VPN จะช่วยเข้ารหัสข้อมูล ทำให้ ISP ไม่สามารถติดตามการใช้งานของคุณได้

         แต่จะดียิ่งกว่านี้ไหม ถ้าเราตั้งรหัสผ่านและใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย? BullVPN เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีของ VPN เชื่อมต่อ BullVPN ก่อนใช้งานเพื่อให้คุณเข้าถึงข้อมูลทั้งในและต่างประเทศได้อย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าคุณจะต้องการดูหนังจากต่างประเทศ หรือเข้าถึงข้อมูลสำคัญ ก็สามารถทำได้อย่างปลอดภัย ด้วย VPN ที่มีการเข้ารหัสระดับสูง คุณจะมั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณจะไม่ตกไปอยู่ในมือของแฮกเกอร์

ads-for-blog

 

บทความแนะนำ 

VPN ฟรี VS VPN เสียเงิน ต่างกันอย่างไร? เลือกแบบไหนดี? 

VPN ต่างจาก Remote Desktop Protocol อย่างไร? 

Server Premium กับประสบการณ์ไร้ขีดจำกัดจาก BullVPN